FIGHT CLUB
รีวิวหนังออนไลน์ “FIGHT CLUB” เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า-แอคชั่น ที่ออกฉายในปี 1999 กำกับโดย เดวิด ฟินเชอร์ และสร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ ชัค พาลานิค หนังเรื่องนี้มีความเป็นเอกลักษณ์และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล
นักแสดงหลัก
- เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน รับบทเป็น ‘The Narrator’ หรือชายผู้เล่าเรื่อง
- แบรด พิตต์ รับบทเป็น ‘Tyler Durden’
- เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ รับบทเป็น ‘Marla Singer’
- ทิโมธี โอลิฟันท์ รับบทเป็น ‘The Mechanic’
- จาร์เร็ด เลโต รับบทเป็น ‘Angel Face’
คะแนนจากเว็บไซต์ต่างๆ
FIGHT CLUB ได้รับคะแนน IMDB 8.8/10 และคะแนนจาก Rotten Tomatoes อยู่ที่ 79% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมและคุณภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้
เนื้อเรื่องและการวิเคราะห์
เนื้อเรื่องของ FIGHT CLUB เริ่มต้นจากชายหนุ่มคนหนึ่ง (รับบทโดยเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) ซึ่งดำเนินชีวิตอย่างซ้ำซากและไม่มีความหมาย เขาต้องเผชิญกับปัญหาภายในจิตใจและความไม่พอใจในชีวิตประจำวัน จนกระทั่งเขาได้พบกับ Tyler Durden (แบรด พิตต์) ชายหนุ่มที่มีแนวคิดแตกต่างโดยสิ้นเชิง
Tyler เป็นตัวแทนของความเสรีและการต่อต้านสังคมที่มีอยู่ในตัวของผู้ชาย ทำให้เขาได้ก่อตั้ง ‘Fight Club’ หรือไฟท์ คลับ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมผู้ชายที่ต้องการระบายอารมณ์และความเครียดผ่านการต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว ชายหนุ่มทั้งหลายสามารถแสดงความเป็นชายของตนผ่านความรุนแรงได้
เมื่อไฟท์ คลับเริ่มเติบโต ชีวิตของ Narrator ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง และเขาเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับ Marla Singer (เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์) ซึ่งเป็นหญิงสาวที่เข้ามาในชีวิตของเขาอย่างไม่คาดคิด ความสัมพันธ์นี้ทำให้เขาต้องเผชิญกับความรู้สึกและความจริงที่เขาซ่อนอยู่ในจิตใจ
ข้อคิดและการตีความ
FIGHT CLUB ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังเกี่ยวกับการต่อสู้ แต่ยังเป็นการสำรวจลึกลงไปในจิตใจของผู้ชายในยุคปัจจุบันที่ต้องการค้นหาความหมายของชีวิต หนังนำเสนอวิธีการที่ผู้ชายสามารถพบกับตัวตนที่แท้จริงของตนเองผ่านการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและความรุนแรง
นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง Narrator และ Tyler ยังสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในที่ทุกคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในไฟท์ คลับเป็นเพียงสัญลักษณ์ของการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในใจของเราเอง
ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่ธรรมดา การสร้างตัวละครที่มีความซับซ้อนและการนำเสนอแนวคิดที่ท้าทาย สุดท้ายแล้ว FIGHT CLUB จึงกลายเป็นภาพยนตร์ที่ยังคงเป็นที่พูดถึงและมีอิทธิพลในวงการภาพยนตร์อย่างมาก